▌Food & Health
เสริมประสิทธิภาพของ IF ด้วยโปรไบโอติก
[/text_box][/ux_banner] [row style=”collapse” width=”full-width” h_align=”center” padding=”20px 0px 0px 0px”][col span=”4″ span__sm=”8″ align=”left”]author : SAS Team
[/col] [col span=”2″ span__sm=”4″ align=”center”][ux_text text_align=”left” text_align__sm=”left”]▌Food & Health
[/ux_text][/col] [col span=”2″ span__sm=”6″ align=”center”][ux_text text_align__sm=”left”]Date : 30 July 2021
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก Intermittent Fasting (IF) หรือการแบ่งเวลากินเป็นช่วง และอดเป็นช่วงนั่นเอง ซึ่งการทำ IF นั้นเป็นที่รู้จักกันมาแพร่หลายและยาวนานมากตั้งแต่สมัยโบราณ โดยประโยชน์หลักๆ มีทั้งการลดระดับอินซูลินในเลือด เพื่อป้องกันภาวะดื้ออินซูลิน การลดไขมัน รวมไปถึงการรักษาสุขภาพโดยรวมอีกด้วย
IF จะแบ่งเป็น 2 ช่วงคือช่วงกิน (Feed) และช่วงอด (Fast) ซึ่งตอนกิน ไม่ได้แปลว่าเราจะสามารถกินอะไรก็ได้ ในปริมาณไหนก็ได้ เพื่อที่จะให้เห็นผลได้ดีที่สุดควรจะระวังเรื่องของการกินควบคู่กันไปด้วย นอกจากนี้ การทำ IF จะมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพลำไส้ของเราด้วยนะ!
วันนี้ SAS จึงมาชวนคุยเรื่องการทำ IF ที่มีผลต่อสุขภาพของลำไส้ และการเติมโปรไบโอติกเพื่อเสริมประสิทธิภาพของการ IF ที่ดีมากขึ้น
“จากการทดลองโดยแบ่งกลุ่มหนูเป็น 2 กลุ่ม โดยให้อาหารประเภทเดียวกันและปริมาณเท่ากัน โดยให้หนูกลุ่มแรกกินอาหารในช่วงเวลาที่จำกัด และกลุ่มที่ 2 จะกินอาหารเวลาใดก็ได้ที่อยากกิน โดยผลการทดลองพบว่าหนูกลุ่มแรกลดน้ำหนักได้มากกว่า และมีปริมาณจุลินทรีย์ในลำไส้เยอะกว่ากลุ่มที่ 2 อย่างมีนัยสำคัญ”
[ux_image id=”9061″]ช่วง Fasting กับการเปลี่ยนแปลงในลำไส้
ในช่วงอดอาหาร จุลินทรีย์ในลำไส้ของเราจะได้พักจากหน้าที่ในการช่วยย่อยอาหารบางชนิด และได้ไปซ่อมแซมหรือดูแลในส่วนอื่นๆ เพื่อให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ โดยการ Fasting ยังช่วยรักษาจำนวนจุลินทรีย์ดีและคงความหลากหลายของจุลินทรีย์เหล่านั้นอีกด้วย
นอกจากนี้การ Fasting แบบกิน 1 วัน และอด 1 วันยังช่วยให้ร่างกายเกิดการเคลียร์แบคทีเรียและจุลินทรีย์ดีที่อยู่ในลำไส้ ซึ่งทำให้เกิดความสมดุลระหว่างทั้ง 2 ชนิดนี้ และจากงานวิจัยยังพบว่าในตอนที่เราอดอาหาร แบคทีเรียก่อโรคในลำไส้ของเรามีแนวโน้มที่จะตายง่ายกว่า ทำให้เหลือแต่จุลินทรีย์ดีในการยึดเกาะผนังลำไส้ของเรานั่นเอง
[ux_image id=”9062″]โปรไบโอติก ตัวช่วยสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของการ Fasting
ในลำไส้ของเรามีทั้งจุลินทรีย์ดีโปรไบโอติกและแบคทีเรียก่อโรคอยู่ปะปนกัน โดยทั้ง 2 ชนิดนี้จะแย่งพื้นที่กันในการเกาะผนังลำไส้ โดยร่างกายมีความอ่อนไหวต่อสิ่งเล็กๆ เหล่านี้มากและแสดงปฏิกิริยาต่างกัน ซึ่งในการทำ IF นอกจากจะมั่นใจเรื่องเวลาในการที่ทำให้ร่างกายได้พักจากการย่อยอาหารแล้ว ยังต้องคำนึงถึงอาหารที่กินเข้าไปอีกด้วย
โปรไบโอติกถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ดีในลำไส้ ทำให้ระบบการย่อยอาหารของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งถือเป็นประโยชน์มากในการทำ Fasting โดยเฉพาะช่วงการอด เพราะร่างกายจะได้ดูดซึมอาหารที่กินไปได้อย่างเต็มที่และทำให้เราสามารถอดได้โดยไม่รู้สึกหิวถึงขั้นทรมาน และจะค่อยๆ ปรับตัวต่อการอดได้ดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ จุลินทรีย์ยังเข้าไปช่วยเรื่องของระบบการขับถ่าย ช่วยให้ร่างกายของเราขับของเสียได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ด้วยความปรารถนาดีจาก blissly bioshot โปรไบโอติกชนิดผงกรอกปาก รสโยเกิร์ต และ biocap7 โปรไบโอติกชนิดแคปซูลพืช เนื้อนิ่ม ละลายไว
อ้างอิง
https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S1568163716302513
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6924599/
[ux_text visibility=”hidden”]สั่งซื้อคลิก:
🍫 blissly Milky Pro รส ON THE CHOC: http://bit.ly/milkyprochoc
🍼 blissly Milky Pro รส REALITY IN WHITE: http://bit.ly/milkyprowhite
อ้างอิง
[/ux_text][/col][/row]