Share

อาการของจุดซ้อนเร้นแก้ได้ด้วยโพรไบโอติก

Last updated: 4 Jul 2024
327 Views

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis)

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากกระเพาะปัสสาวะติดเชื้อแบคทีเรีย จากสถิติพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย และพบมากในช่วงอายุ 20-50 ปี เนื่องจากผู้หญิงมีท่อปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย อยู่บริเวณใกล้กับช่องคลอดและทวารหนัก ดังนั้น แบคทีเรียจากภายนอกไม่ว่าจะมาจากช่องคลอดหรือสุขอนามัยที่ไม่เหมาะสม อาจเป็นสาเหตุทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปพบว่าเชื้อ Escherichia coli เป็นสาเหตุหนึ่งของการติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะ (Urinary tract infection) อาจนำไปสู่ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) ไตและกรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis) นอกจากนี้ ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบในทารกแรกคลอด (Neonatal meningitis) ซึ่งเชื้อนี้พบได้ในช่องคลอดของมารดาที่เกิดเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (Peritonitis) อาการอักเสบมักเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง ปัสสาวะกะปริบกะปรอยบ่อยครั้ง ปัสสาวะแสบขัด  ปัสสาวะสีขุ่น บางรายมีเลือดปนมากับปัสสาวะ มีอาการเจ็บเมื่อปัสสาวะเสร็จ ตกขาวผิดปกติ มีอาการคันและกลิ่นไม่พึงประสงค์ร่วมด้วย ส่งผลถึงบุคลิกภาพ ความมั่นใจ และการใช้ชีวิตประจำวันให้กับคุณผู้หญิง

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการติดเชื้อและกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

1. กลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ
2. ดื่มน้ำน้อย
3. ไม่รักษาสุขอนามัยให้เหมาะสม
4. จุลินทรีย์ในระบบปัสสาวะไม่ความไม่สมดุล

การป้องกันการติดเชื้อและโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

1. ไม่กลั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ๆ
2. ดื่มน้ำสะอาดบ่อย ๆ เพื่อขับเชื้อโรคออกจากร่างกาย
3. ทำความสะอาดหลังจากปัสสาวะหรืออุจจาระอย่างถูกต้อง
4. ทำความสะอาดร่างกายหลังมีเพศสัมพันธ์
5. การใช้ยาปฏิชีวนะ แต่อาจทำให้เกิดการดื้อยาได้
6. รักษาสมดุลโพรไบโอติกในลำไส้และช่องคลอด

 ร่างกายของเราเป็นที่อยู่ของเหล่าจุลินทรีย์ตัวเล็กๆ มากมายหลายชนิด ซึ่งอาศัยกันเป็นระบบนิเวศหรือชุมชนจุลินทรีย์ ที่เรียกว่า ไมโครไบโอต้า เช่น ไมโครไบโอต้าบนผิวหนัง ไมโครไบโอต้าในระบบทางเดินอาหาร ไมโครไบโอต้าของระบบขับถ่าย และ ไมโครไบโอต้าในระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น ดังนั้นการที่ระบบต่างๆในร่างกายจะทำงานได้ดีและเป็นปกติ จุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในระบบนิเวศเหล่านนั้น ก็ควรเป็นชนิดที่ดี ไม่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เราเรียกจุลินทรีย์ชนิดดีเหล่านั้นว่า โพรไบโอติก โพรไบโอติกจะทำหน้าที่ในการยับยั้ง ควบคุม และปรับสมดุลจุลินทรีย์ในระบบนิเวศนั้นๆ ให้มีความสมดุลเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร ตั้งแต่ ช่องปากไปจนถึงลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ และยังมีไมโครไบโอต้าที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับระบบขับถ่ายคือ ไมโครไบโอต้าช่องคลอด  การไม่สมดุลของไมโครไบโอต้าในระบบปัสสาวะนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ดังนั้น การทีเรามีจุลินทรีย์ดีในระบบทางเดินอาหารก็จะส่งผลไปถึง ช่องคลอดและระบบทางเดินปัสสาวะได้ โดยทั่วไปแล้ว ช่องคลอดจะมี pH เป็นกรดอ่อนๆ (pH 3.8-4.2) ซึ่งเป็นสภาวะที่ชุมชนโพรไบโอติก โดยเฉพาะกลุ่ม แลคโตบาซิลลัส สร้างขึ้นเพื่อป้องกันและยับยั้งเชื้อรา แบคทีเรียก่อโรคต่างๆ ไม่ให้ก่อโรค เช่น การตกขาว การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซึ่งอาจทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบตามมา อีกทั้งยังทำให้เกิดอาการคัน มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ส่งผลต่อบุคลิกและการใช้ชีวิตประจำวันได้            

จากงานวิจัยพบว่า การปรับสมดุลจุลินทรีย์ในช่องคลอดทำได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการเติมโพรไบโอติกให้กับร่างกาย โดยมีการให้อาสาสมัครผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ 125 คน รับปะทาน โพรไบโอติก L. rhamnosus และ L. reuteri ชนิดแคปซูลปริมาณ พันล้านตัวต่อวัน เปรียบเทียบกับอีกกลุ่มที่ให้รับประทานยาต้านเชื้อรา เป็นเวลา 12 เดือน พบว่า กลุ่มที่รับประทานโพรไบโอติกมีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะลดลงไม่แตกต่างกับการใช้ยา แต่การรับประทานโพรไบโอติกนั้นจะทำให้เชื้อราไม่เกิดการดื้อยาเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยา ดังนั้น นอกจากการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้ว การเติมโพรไบโอติกให้กับร่างกาย การใช้จุลินทรีย์ธรรมชาติปรับสมดุลก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำๆ และเป็นการลดการการใช้ยาปฏิชีวนะได้อีกด้วย

ref :
https//www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/infographic/cystitis/    

https://www.paolohospital.com/th-TH/phahol/Article/Details/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%9A 

https://yesmomfertility.com/blog/th/bv-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C/https://www.pidst.or.th/A753.html 

https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/22782199/ 


Related Content
Understanding Soil-Borne Diseases
Understanding Soil-Borne Diseases: Effective Prevention and Management . Soil-borne diseases are silent threats that cause extensive damage to agricultural crops. These diseases are caused by fungi and bacteria that live in the soil and can attack plants at every growth stage, from seedlings to maturity.
17 Jan 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว and นโยบายคุกกี้
Compare product
0/4
Remove all
Compare
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy