นวัตกรรม โพรไบโอติก ฉบับคนไทย
นวัตกรรม โพรไบโอติก ฉบับคนไทย
___________________________
เพื่อสุขภาพคนไทย
โพรไบโอติก เป็นเทรนด์สุขภาพที่มาแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องในอนาคต เนื่องจากมีงานวิจัยออกมายืนยันเกี่ยวกับประโยชน์ของโพรไบโอติกต่อสุขภาพมากมาย
ดร.ไกลกว่า วุฒิเสน หรือ ดร.แบงค์ Product Specialists บริษัทสยาม อะกริ ซัพพลาย จํากัด หรือ SAS จะมาบอกเล่าถึงประโยชน์ของโพรไบโอติกต่อสุขภาพ
3 คุณค่าดีที่โพรไบโอติกมอบให้
โดยปกติแล้วโพรไบโอติกคือจุลินทรีย์ดีที่อาศัยอยู่ใน ร่างกาย โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหารของเราทั้งใน ช่องปากและบริเวณลําไส้ ซึ่งมีค่า pH 6 - 7 ทําให้จุลินทรีย์ เหล่านี้เจริญเติบโตได้ดี ลําไส้จึงเปรียบเหมือนอาณาจักร
ของโพรไบโอติกที่มีโพรไบโอติกหลากหลายสายพันธุ์ อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างหนาแน่นและทําหน้าที่สําคัญ เช่น ปรับ สมดุลลําไส้ ช่วยย่อยอาหาร เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และ รักษาสมดุลของระบบทางเดินอาหาร สุขภาพของลําไส้ จึงสัมพันธ์โดยตรงกับสุขภาพโดยรวมของเรา
ประโยชน์ของโพรไบโอติกประการที่หนึ่ง เราต้องกิน อาหารทุกวัน และอาจมีสิ่งปนเปื้อนปะปนเข้าไปกับอาหาร แต่ ถ้าเรามีโพรไบโอติกมากพอ โพรไบโอติกจะผลิตกรดแล็กติก ซึ่งมีความเป็นกรดอ่อนๆ ที่สามารถไปทําลายผนังเซลล์ของ จุลินทรีย์ก่อโรค ทําให้จุลินทรีย์ก่อโรคไม่สามารถเจริญเติบโตได้
ประการที่สอง โพรไบโอติกสามารถผลิตกรดไขมัน สายสั้นที่เรียกว่า Short-chain Fatty Acids (SCFAs) ซึ่งกรดไขมันกลุ่มนี้จะกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันและจะผลิตมากที่สุดบริเวณลําไส้ ดังนั้นจึงเป็นที่มาว่า ถ้าลําไส้เราดี ภูมิคุ้มกันก็จะดีตามไปด้วย
ประการที่สาม โพรไบโอติกยังทํางานสัมพันธ์ระหว่าง สมองกับลําไส้ผ่าน Gut Brain Axis ซึ่งเป็นการติดต่อสื่อสาร ของสมองและลําไส้ จนมีคํากล่าวว่า ลําไส้ คือสมองที่ 2 ของร่างกาย ถ้าลําไส้ดี สมองดี อวัยวะทั้งหมดในร่างกายก็ทํางานดีตามไปด้วย ซึ่งโพรไบโอติกบางสายพันธุ์สามารถ กําจัดอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบได้ หรือบางสายพันธุ์ เก่งในเรื่องของการลดระดับน้ําตาล ลดไขมันในเลือด
โพรไบโอติกสูตรเฉพาะของ SAS
เนื่องจาก SAS เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพ จุลินทรีย์ และยังมี ดร.แบงค์เป็นหนึ่งในนักวิจัยจาก ทีมนักวิจัยคณะแพทยศาสตร์และศูนย์เพื่อความเป็นเลิศทางวิจัยด้านโพรไบโอติก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มาร่วมทีม จึงทําให้คัดเลือกโพรไบโอติกสายพันธุ์ที่มีจุดเด่น เฉพาะด้านมาถ่ายทอดเป็นผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกภายใต้ แบรนด์ bioCRAFT ของ SAS ดร.ไกลกว่า อธิบายจุดเด่น ไว้อย่างน่าสนใจดังนี้
โดยปกติคนส่วนใหญ่จะนึกถึงประโยชน์ของโพร ไบโอติกในเรื่องของการแก้ปัญหาท้องผูกและปรับสมดุลลําไส้ เป็นหลัก แต่แท้จริงแล้วโพรไบโอติกมีคุณประโยชน์หลายประการ คอนเซ็ปต์ของแบรนด์ bioCRAFT มีอัตลักษณ์อย่างชัดเจน อย่างที่บอกว่าเรารู้อยู่แล้วว่าแต่ละสายพันธุ์ มีจุดเด่นยังไง เราเลยดึงจุดเด่นของสายพันธุ์ต่าง ๆ มาสร้าง ประโยชน์ให้กับร่างกายมากที่สุด และเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เรามาทําความรู้จักกับสินค้าภายใต้แบรนด์ bioCRAFT กันครับ
ตัวแรกเป็นรูปแบบผงที่เราเรียกว่า bioSHOT ซึ่งมี โพรไบโอติกมากถึง 11 สายพันธุ์และพรีไบโอติก 3 ชนิด ช่วยดูแลตั้งแต่ช่องปากจนถึงการปรับสมดุลจุลินทรีย์ในระบบ ทางเดินอาหาร ดูแลร่างกายแบบองค์รวมเลยครับ มีให้เลือก 2 รสชาติด้วยกันคือ รสโยเกิร์ต และรสมิกซ์เบอร์รี่ อร่อยกินง่าย
ยังมีอีกสองตัวในรูปแบบผงชงดื่มที่อยากแนะนําครับ เริ่มจาก bioSHOT Drink Fiber ที่อุดมไปด้วยผงผัก 13 ชนิด ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายโดยเฉพาะคนที่ท้องผูก มากๆ เพราะเราเสริมไซเลียมฮัสค์ (Psyllium Husk) ใยอาหารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระ
ส่วน bioSHOT Drink Collagen เป็นคอลลาเจน ที่นําเข้าจากฝรั่งเศส มีงานวิจัยรองรับ ช่วยในเรื่องผิว ริ้วรอย มาผสานกับสารสกัดจากซีบัคธอร์น (Sea Buckthorn) ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินอีสูงที่สุด ผมว่าการดูแลสุขภาพ และผิวพรรณให้ดีจากภายในสู่ภายนอกเป็นสิ่งสําคัญ
ผลิตภัณฑ์ต่อมาอยู่ในรูปแบบแคปซูลที่นําคุณประโยชน์ ของโพรไบโอติกแต่ละสายพันธุ์มาป้องกันและแก้ปัญหาแบบเฉพาะทาง
ไบโอแคป เฮป้า ตัวนี้ผมตั้งใจให้มาดูแลสุขภาพตับ โดยเฉพาะ มีโพรไบโอติก 3 สายพันธุ์และพรีไบโอติก 1 ชนิด โพรไบติกทั้ง 3 สายพันธุ์ไม่ใช่แค่ช่วยปรับสมดุลลําไส้ แต่มีความฉลาดเฉพาะและพิเศษตรงที่สามารถลดการ ดูดซึมไขมันส่วนเกิน เช่น ไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอล และแอลดีแอล ซึ่งโพรไบโอติกจะผลิตเอนไซม์ที่มีชื่อว่า Bile Salt Hydrolase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ช่วยย่อยเกลือน้ำดีให้อยู่ในรูปที่สามารถขับออกจากร่างกายผ่านทางอุจจาระได้ เพื่อมาทดแทนเกลือน้ําดีที่ถูกขับออกไป ร่างกายก็จะดึงเอา คอเลสเตอรอลที่เกินมาใช้แทนได้ จึงสามารถลดระดับไขมัน ลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะไขมันพอกตับได้ นอกจากนี้ยังควบคุมระดับน้ําตาลในเลือด และที่สําคัญยังสามารถลดการ อักเสบที่เป็นต้นตอของการเกิดโรคตับ ผังผืดในตับ ไม่เพียง เท่านี้ ยังสามารถลดระดับของ Alanine Transaminase (ALT) และ Aspartate Aminotransferase (AST) ได้ ซึ่งทั้ง ALT และ AST เป็นเอนไซม์ที่ตับสร้างขึ้นมาในการ เผาผลาญโปรตีน แต่หากพบว่าระดับของ ALT และ AST สูงกว่าค่ามาตรฐาน (ALT ประมาณ 7 - 55 U/L ส่วน AST ของผู้ชายอาจอยู่ที่ประมาณ 10 - 40 U/L และ 9 - 32 U/L สําหรับผู้หญิง) หมายความว่าตับได้รับความเสียหายหรือ ทํางานผิดปกติ ซึ่งโพรไบโอติกของเรามีคุณสมบัติในการลด ระดับของเอนไซม์ ALT และ AST ได้อย่างมีนัยสําคัญทาง สถิติ หากเราละเลยการดูแลตับของเรา เอนไซม์ ไขมัน น้ําตาลต่างๆ จะทําให้เราเข้าสู่โรคตับแข็งและมะเร็งตับในที่สุด หากลดปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ได้ เราจะสามารถทวงคืนสุขภาพตับ ที่ดีกลับคืนมา
ไบโอแคป พลัส สารสกัดซีบัคธอร์น มีโพรไบโอติก 3 สายพันธุ์และพรีไบโอติก 1 ชนิด ออกแบบมาเพื่อดูแล สุขภาพเพศหญิงโดยเฉพาะ ช่วยปรับสมดุลในจุดซ่อนเร้น ลดความเสี่ยงการติดเชื้อในช่องคลอด กลิ่นไม่พึงประสงค์ อาการตกขาว ที่สําคัญเลยนะครับ มีหนึ่งสายพันธุ์ที่เก่ง มาก ๆ และมีเพียง SAS เท่านั้นที่สามารถครอบครองและ นําไปใช้ได้ โดยสายพันธุ์นี้มีคุณสมบัติในการลดการติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่ทําให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็ง ทวารหนัก มะเร็งช่องคลอด ซึ่งล้วนเป็นโรคที่ติดต่อทาง เพศสัมพันธ์และการสัมผัส นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการติดเชื้อในช่องคลอดและทางเดินปัสสาวะ ไม่เพียงเท่านี้ ยังช่วย ยับยั้งการติดเชื้อจากเชื้อรา แบคทีเรีย และปรสิตได้ และที่พิเศษยิ่งขึ้นคือการเติมเต็มด้วยสารสกัดจาก ซีบัคธอร์น ผลไม้ที่ขึ้นชื่อว่ามีวิตามินอีสูงที่สุด ช่วยเพิ่ม ความชุ่มชื้นให้ผิว เสริมสร้างน้ําหล่อลื่นตามธรรมชาติ นี่จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสําหรับผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ แบบองค์รวม โดยหลีกเลี่ยงการใช้ยาแอนตี้ไบโอติกและมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างสมดุลจากธรรมชาติ
ไบโอแคป โกลด์ นวัตกรรมเสริมอาหารที่รวมพลังจาก โพรไบโอติก 11 สายพันธุ์และพรีไบโอติก 1 ชนิด เพื่อการดูแล สุขภาพลําไส้และสมองอย่างครบวงจร โพรไบโอติกเหล่านี้ไม่เพียงช่วยปรับสมดุลลําไส้ แต่ยังส่งผลดี ต่อการทํางานของระบบประสาทและสมอง ช่วยให้นอนหลับได้ลึกขึ้น ช่วยกระตุ้นการผลิตสารที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ที่สําคัญยังช่วยลด การอักเสบที่เป็นจุดเริ่มต้นความเสื่อมของร่างกาย โดยเฉพาะสมองและ ระบบประสาท ทําให้เสริมความจําให้คมชัดได้ดีขึ้น จากการทดลอง ที่ผมได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง เพื่อดูการลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิด โรคอัลไซเมอร์ในหนูสูงวัย โดยแบ่งกลุ่มการทดลองออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ หนูปกติสูงวัยที่ไม่ได้รับโพรไบโอติก หนูปกติสูงวัยที่ได้รับ โพรไบโอติก และหนูอายุน้อย พบว่า หนูปกติสูงวัยที่ได้รับโพรไบโอติกมีระดับความจําและการเรียนรู้สูงกว่าหนูปกติสูงวัยที่ ไม่ได้รับโพรไบโอติก และหากดูในส่วนชีวเคมียังพบอีกว่า ระดับ ของอะไมลอยด์-เบต้าและโปรตีนเทาซึ่งเป็นตัวชี้วัดของการเกิด โรคสมองเสื่อม หากมีระดับของโปรตีนทั้งสอง 2 สูงหมายความว่า สมองเกิดการอักเสบและกําลังถูกทําลาย เมื่อทําการทดลองพบว่า หนูปกติสูงวัยที่ได้รับโพรไบโอติกมีระดับของโปรตีนทั้ง 2 น้อยกว่า หนูปกติสูงวัยที่ไม่ได้รับโพรไบโอติก ที่สําคัญมันใกล้เคียงกับหนู อายุน้อย จึงกล่าวได้ว่า โพรไบโอติกสามารถลดการอักเสบและ ลดปัจจัยของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้
กินโพรไบโอติกอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
นอกจากการคัดเลือกผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกที่มีคุณภาพแล้ว วิธีการกินก็เป็นสิ่งสําคัญที่จะช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์สูงสุดดร.แบงค์แนะนําดังนี้
มีคําถามบ่อยว่า กินตอนไหนให้ได้ประโยชน์ ต้องรู้ก่อนว่า โพรไบโอติกแต่ละชนิดทนความเป็นกรดด่างได้ไม่เท่ากัน บางชนิด ทนค่า pH ได้ 2 หรือ 3 ดังนั้นแนะนําให้กินช่วงท้องว่าง เช่น ตื่นนอน หรือก่อนนอน หรือถ้าบางคนบอกว่าลืมกิน แนะนําว่าสามารถกินก่อนมื้ออาหาร 1 - 2 ชั่วโมงก็ได้ เพื่อลดการเจอกรดในกระเพาะอาหาร
นอกจากนี้ ดร.แบงค์ยังฝากทิ้งท้ายถึงความอุดมสมบูรณ์ของ จุลินทรีย์ดีในเมืองไทยไว้ว่า
ผมมองว่างานวิจัยเรื่องโพรไบโอติกในเมืองไทยยังไปได้อีกไกล บ้านเรามีของดีเยอะมาก โดยเฉพาะโพรไบโอติก เพราะประเทศไทย มีวัฒนธรรมอาหาร 4 ภาค มีความหลากหลายของจุลินทรีย์เยอะมาก ทุกวันนี้เราจึงยังพบเชื้อชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติใหม่อยู่เสมอ นอกจาก ตัวเชื้อแล้ว นักวิจัยก็ยังไม่หยุดพัฒนาการห่อหุ้มโพรไบโอติก
เช่นทุกวันนี้ SAS มีเทคโนโลยี Dual Coat System เป็น เทคโนโลยีที่ SAS นํามาใช้เพื่อปกป้องโพรไบโอติกจากสภาวะ สิ่งแวดล้อมต่างๆ โดยเทคโนโลยี Dual Coat System มีการ
ปกป้องโพรไบโอติกถึงสองชั้น ชั้นนอกเป็น การเคลือบเพื่อช่วยปกป้องโพรไบโอติกจาก สิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น อากาศ อุณหภูมิสูง ความชื้น รวมถึงแรงดันจากกระบวนการผลิต และ ชั้นในเคลือบเพื่อปกป้องจากกรดในกระเพาะและทน ต่อเกลือน้ำดีที่ลําไส้ได้ ดังนั้นการมี Dual Coat System ก็เปรียบเสมือนเป็นเกราะป้องกันสองชั้น ให้กับโพรไบโอติก เพื่อให้โพรไบโอติกทํางานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
รู้จักคําศัพท์สุขภาพ เกี่ยวกับจุลินทรีย์
โพรไบโอติก (Probiotics) หมายถึง จุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตและถือว่าเป็นชนิดที่ ก่อประโยชน์ต่อร่างกายทั้งชนิดแบคทีเรียและยีสต์
พรีไบโอติก (Prebiotics) หมายถึง สิ่งไม่มีชีวิตที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์หรือ โพรไบโอติก เช่น เส้นใยอาหารที่ร่างกาย ไม่สามารถย่อยหรือดูดซึมได้ในทางเดินอาหาร
ซินไบโอติก (Synobiotics) หมาย ถึง การนําพรีไบโอติกและโพรไบโอติก มารวมกัน
โพสต์ไบโอติก (Postbiotics) หมายถึง ซากสิ่งมีชีวิตหรือซากโพรไบโอติกที่ตายแล้วและของเสียจากจุลินทรีย์
รู้หรือไม่ จุลินทรีย์มีมากแค่ไหน
จุลินทรีย์ในร่างกายมนุษย์มีจํานวน มากถึง 100 ล้านล้านเซลล์ ในขณะที่ เซลล์ของร่างกายมีเพียง 30 ล้านล้านเซลล์ เท่านั้น
น้ำหนักของจุลินทรีย์ในร่างกายมนุษย์มีมากถึง 2 กิโลกรัม
ยีนของจุลินทรีย์ในช่องท้องของ แต่ละคนอาจมีมากถึง 3.3 ล้านยืน ใน ขณะที่ยืนของจุลินทรีย์ทั้งหมดของมนุษย์ มีอยู่ประมาณ 20,000,000 ยืน ส่วนยืน ของมนุษย์มีเพียง 22,000 ยีนเท่านั้น