แบคทีเรียก่อโรคในทางเดินอาหารสัตว์ปีก

“SAS หนึ่งในผู้นำที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากองค์ความรู้เทคโนโลยีชีวภาพสาขาจุลินทรีย์ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพถึงมือคุณด้วยใจรัก และสร้างประโยชน์คืนสู่สังคมไปพร้อมๆ กัน

        แบคทีเรียก่อโรคในทางเดินอาหารของสัตว์จะสร้างสารพิษหรือโปรตีนชนิดใดชนิดหนึ่งออกมา เพื่อทำลายหรือก่อให้เกิดการเสียหายของผนังลำไส้ กระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของตัวสัตว์เอง และบางครั้งทำให้เกิดอาการอักเสบภายในทางเดินอาหารของตัวสัตว์เอง

        เชื้อก่อโรคในทางเดินอาหารที่มักพบในสัตว์ปีกและสุกร เช่น Salmonella spp., Escherichia coliClostridium perfringensClostridium difficile, Campylobacter spp.Yersinia spp., Shigella spp. (วิริยา, 2562)

        สำหรับบทความในฉบับนี้ SAS จะกล่าวถึงเชื้อก่อโรคตัวสำคัญในอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่เนื้อ คือ E. coli

        เชื้อ E. coli ยังคงเป็นปัญหาหลักๆ ของการเลี้ยงไก่เนื้ออยู่ในปัจจุบัน สายพันธุ์ของเชื้อที่ก่อโรคในไก่ที่พบได้บ่อย เช่น 01, 02 และ 078 แต่เชื้อที่พบได้จากไก่ที่เป็นโรคในประเทศไทยพบสายพันธุ์ 078 พบได้ในไก่เนื้อทุกช่วงอายุ

        แหล่งที่พบเชื้อคือ ทางเดินอาหารในส่วนของลำไส้ E. coli เป็นแบคทีเรียแกรมลบ (gram negative bacteria) ในไก่เนื้อช่วงอายุ 4 – 5 สัปดาห์ มักจะเกิดความรุนแรงมากถ้าพบเชื้อ จะทำให้อัตราการตายสูงกว่าปกติ

        ส่วนในเรื่องของการเจริญเติบโตจะส่งผลทำให้ต่ำกว่าเกณฑ์ ระบบการย่อยและการดูดซึมอาหารผิดปกติ อันเนื่องมาจากตัวเชื้อได้เข้าทำลายผนังลำไส้เล็กทำให้เสียหาย หลุดลอก และอักเสบ เชื้อ E.coli จะฝังตัวและเพิ่มจำนวนที่ลำไส้เล็กและเข้าสู่ระบบของร่างกายได้ง่ายขึ้นถ้าไก่ป่วยเป็นโรคบิด

ไก่สามารถได้รับเชื้อ E. coli โดยวิธีต่างๆ คือ

  1. การแพร่เชื้อผ่านไข่ พบได้บ่อย และเป็นสาเหตุทำให้ลูกไก่ตายได้สูงหลังจากฟักออกมา
  2. การที่เชื้อ E. coli จากมูลไก่เปื้อนมาสัมผัสเปลือกไข่ ซึ่งเชื้อสามารถแทรกตัวผ่านเปลือกไข่เข้าไปได้
  3. ไก่อาจได้รับเชื้อ E. coli ที่กระจายปะปนมากับฝุ่นละอองภายในโรงเรือน จากวัสดุรองพื้น จากสิ่งขับถ่ายของไก่ตัวอื่น หรือจากน้ำที่ไก่กินไม่สะอาด

        สมาคมธุรกิจเวชภัณฑ์สัตว์กล่าวว่า โรคที่ไก่ได้รับเชื้อ E. coli มักจะเกิดเป็นโรคโคไลบาซิลโลซิส (Colibacillosis) แต่ส่วนมากมักเกิดภายหลังจากไก่ เกิดเครียด ภูมิคุ้มกันตก ซึ่งสาเหตุที่เกิดความเครียดและเกิดโรคอาจเกิดมากจาก

  1. 1. ไก่มีเชื้อ MG และได้รับวัคซีนนิวคาสเซิล วัคซีนหลอดลมอักเสบติดต่อ หรือวัคซีนกล่องเสียงอักเสบติดต่อ (Infectious Laryngotracheitis vaccine) เป็นต้น

2. สภาพภูมิคุ้มกันบกพร่องจากโรคกัมโบโร (Gumboro หรือ Infectious Bursal Diseases) หรือสารพิษจากเชื้อรา เป็นต้น

3. สภาพสิ่งแวดล้อม อากาศแปรปรวน อุณหภูมิแตกต่างกันมากระหว่างกลางคืน ล้างโรงเรือนไม่สะอาด การฟักไม่ดี แอมโมเนียสูง ความชื้นสูง การระบายอากาศมากหรือน้อยเกินไป เป็นต้น

        ด้วยผลกระทบทั้งหมดที่เกิดจากตัวเชื้อ E. coli ร่วมกับไก่มีความเครียดและภูมิคุ้มกันตกด้วย การแก้ปัญหานี้ก็ต้องทำทั้ง 2 ทางคือ กำจัดเชื้อ E. coli ออกจากระบบการเลี้ยง และการเลี้ยงให้ไก่เกิดความเครียดน้อยที่สุด ไม่เลี้ยงหนาแน่นจนเกินไป ไก่ได้รับน้ำและอาหารเต็มที่

        เสริมแร่ธาตุ วิตามินในวันที่อากาศร้อนเพื่อลดความเครียด และส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการเสริมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ (Probiotic) เพื่อรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกายไก่ ในสมดุลจุลินทรีย์ที่ดีจะเข้าไปจัดการเชื้อก่อโรค และที่สำคัญการเลี้ยงไก่ยุคใหม่ต้องหลีกเลี่ยงและลดการใช้ยาปฏิชีวนะให้มากที่สุด

        เมื่อเราจัดการทุกอย่างอย่างเหมาะสมและถูกต้องแล้ว ผลที่ตามมาก็คือ ไก่สุขภาพที่แข็งแรง ไม่เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ และประสิทธิภาพการเจริญเติบโตเป็นไปตามมาตรฐาน ผลกำไรจากการประกอบธุรกิจก็ดีตามมาด้วย

“ร่วมส่งต่อโลกที่น่าอยู่ จากความใส่ใจ และพิถีพิถัน พร้อมมอบรอยยิ้ม ที่กว้างขึ้นให้กับคนที่เรารักไปด้วยกัน SAS sending a bigger smile”