SAD โรคเศร้าที่มาพร้อมหน้าหนาวกับการกินที่จะเยียวยาทุกสิ่ง

[ux_image id=”4280″][gap][row h_align=”center”][col span=”8″ span__sm=”12″]

        ไม่ใช่มอสก็ลำบากหน่อย

        SAD แปลว่าเศร้า และยังเป็นชื่อเล่นของ Seasonal Affective Disorder ภาวะซึมเศร้าที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงฤดูกาล

        เมื่ออุณหภูมิลดต่ำลง แสงแดดปลีกตัวตลอดทั้งวัน ทำให้สิ่งมีชีวิตเริ่มปรับตัวลำบาก แต่ไม่ใช่กับพืชอย่างมอส เพราะในขณะที่บริเวณโดยรอบหนาวจัดจนน้ำกลายเป็นของแข็ง มอสจะทำตัวเองให้แห้งตามแต่แค่หยุดนิ่งชั่วคราวเท่านั้นเมื่อน้ำแข็งละลาย เหล่ามอสจะกลับมาเติบโตขึ้นอีกครั้ง

[ux_image id=”4283″]

        ในช่วงหน้าหนาว หลายคนอาจเคยรู้สึกขาดความชุ่มชื่นหัวใจเหี่ยวแห้งไม่ต่างกัน มีการยืนยันแล้วว่าอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงนำมาซึ่งภาวะซึมเศร้าจากสภาพอากาศได้ และเพราะเราไม่ใช่มอส ไม่มีกลไกป้องกันเฉพาะตัวจึงอาจต้องอาศัยตัวช่วยเข้าไปเสริมทั้งร่างกายและจิตใจ

        มอสแห่งแอนตาร์กติกาจะเก็บสารที่คอยป้องกันตัวเองจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไว้ที่เซลล์

       ถ้าถามว่าแล้วอะไรที่คอยปกป้องอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์จากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ หลายคนนึกถึงการดูแลจิตใจให้แข็งแกร่ง ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเรานึกถึงการดูแลระบบประสาทลำไส้ ที่นอกจากควบคุมการย่อยอาหารแล้ว ยังสามารถแปลงความรู้สึกต่างๆ แล้วส่งไปที่สมองได้ด้วย

        การที่ลำไส้กระตุ้นอารมณ์ดีและร้ายของเราได้อาจฟังดูแปลกสักหน่อย อันที่จริงแล้วลำไส้มีเซลล์ประสาทมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ซึ่งแปลว่าการส่งข้อความไปยังสมองนั้นเป็นเรื่องจิ๊บๆ

[ux_image id=”4284″]

        ลำไส้มีเซลล์ประสาทด้วยเหรอ – คำตอบคือ ใช่

        บรรดาผู้เชี่ยวชาญถึงกับขนานนามว่าลำไส้เป็นสมองที่ 2 ของคนเราเลยทีเดียว เพราะภายในลำไส้มีเซลล์ประสาทอยู่ถึง 100 ล้านเซลล์ นั่นแปลว่ายิ่งลำไส้ดี เซลล์ประสาทเหล่านี้ก็จะทำงานได้ดีและส่งต่ออารมณ์ดีๆ ไปสู่สมองของเรา และเพราะเซลล์ประสาทที่มากมายอาศัยอยู่ในลำไส้ การใส่ใจอาหารที่รับประทานจึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ เพราะอาหารเหล่านั้นเป็นปัจจัยหลักที่สามารถชี้วัดสุขภาพลำไส้และประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์สมองจากสมองที่ 2 แห่งนี้ได้

        นอกจากเซลล์ประสาท ลำไส้ยังแบ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ไว้ให้จุลินทรีย์อาศัยอยู่ ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้มีอิทธิพลต่อสุขภาพลำไส้เป็นอย่างมาก โดยจุลินทรีย์ในลำไส้มีทั้งชนิดดี เป็นกลาง และชนิดไม่ดี หากมีจุลินทรีย์ดีในลำไส้มากพอ จุลินทรีย์ที่เป็นกลางจะย้ายข้างมาอยู่ฝ่ายดีกำจัดจุลินทรีย์ที่ไม่ดี ทำให้ผนังลำไส้ของเราแข็งแรงและยังช่วยเพิ่มการดูดซึมสารอาหารได้ ไปจนถึงช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

        คำถามคือแล้วจะเพิ่มจุลินทรีย์ในลำไส้ได้อย่างไร ต้องขอบคุณที่โลกเต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ เราจึงสามารถค้นพบสิ่งต่างๆ ที่ตาเปล่ามองไม่เห็น และหนึ่งในนั้นคือจุลินทรีย์ดีที่ชื่อว่า “โปรไบโอติกส์” เป็นจุลินทรีย์ดีที่มักพบเจอในโยเกิร์ต ปัจจุบันเราสามารถหาโปรไบโอติกส์รับประทานได้ง่ายขึ้นในรูปแบบของอาหารเสริม 

        โดยโปรไบโอติกส์เป็นจุลินทรีย์ดีที่จะเข้าไปสมดุลระบบลำไส้ เมื่อทุกอย่างสมดุล เซลล์ประสาทแข็งแรง อารมณ์ความรู้สึกของเราที่จะถูกถ่ายทอดไปยังเซลล์สมองก็จะดีขึ้น เรียกว่าลำไส้ดี เจ้าของลำไส้ก็ได้รับผลดีตามไปด้วยทั้งร่างกายและจิตใจ

       ย้อนกลับไปที่มอสในแอนตาร์กติกา หากมอสที่มีสารป้องกันการแข็งตัวเหล่านั้นไม่ต้องกังวลกับอากาศหนาวเย็น ลำไส้ของเราที่มีจุลินทรีย์ดีโปรไบโอติกส์ก็อารมณ์ดีได้ ไม่ต้องกังวลแม้อยู่ในสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง

 

อ้างอิง

https://www.stopcoloncancernow.com/buttseriously/prevention-info/probiotics-boost-gut-health-and-fight-depression

https://ideas.ted.com/the-extraordinary-antarctic-plants-with-superhero-power

 

[/col][/row]