▌Food & Health
กินทุเรียนมากไป ปวดท้อง โปรไบโอติกช่วยได้
[/ux_text][/text_box][/ux_banner] [row style=”collapse” width=”full-width” h_align=”center” padding=”20px 0px 0px 0px”][col span=”3″ span__sm=”8″ align=”left”]author : ทีมวิชาการ SAS
[/col] [col span=”2″ span__sm=”4″ align=”center”][ux_text text_align=”left” text_align__sm=”left”]▌News & Events
Date : 10 NOV 2021
จากการตรวจพบยาปฏิชีวนะตกค้างในผลิตภัณฑ์กุ้งสดแช่แข็งของหลายๆ ประเทศ เป็นเหตุให้สินค้าโดนตีกลับหรือถูกทำลายและเสียชื่อเสียงของประเทศ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์กุ้งจากประเทศไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูง ไม่พบยาปฏิชีวนะตกค้าง อันเป็นผลจากมาตรการการตรวจเข้มของกรมประมง ห้องเย็น รวมถึงความร่วมมือของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งซึ่งเข้าใจถึงผลกระทบที่จะตามมาหากมีการใช้ยาปฏิชีวนะจนตกค้างในเนื้อกุ้ง
วันนี้ SAS มีข้อควรทราบและคำแนะนำในการใช้ยาปฏิชีวนะ แนวทางการลดการใช้ยาปฏิชีวนะในฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งให้ผลการเจริญเติบโตที่ดีและส่งผลให้เกิดอุตสาหกรรมการเลี้ยงอย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเราสามารถผลิตสินค้าเป็นกุ้งพรีเมียม คุณภาพดี เนื้อหวาน สด กรอบ ได้ราคาสูง
อันดับแรก เกษตรกรควรหลีกเลี่ยงยาและสารเคมีที่ห้ามใช้ในสัตว์น้ำในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำดังนี้ (ที่มา: ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 299 พ.ศ. 2549 วันที่ 18 สิงหาคม 2549)
- คลอแรมฟินิคอล (Chloramphenicol)
- ไนโทรฟิวราโซน (Nitrofurazone)
- ไนโทรฟิวแรนโทอิน (Nitrofurantoin)
- ฟิวราโซลิโดน (Furazolidone)
- ฟิวแรลทาโดน (Furaltadone)
- มาลาไคท์ กรีน (Malachite Green)
เพราะนอกจากจะส่งผลเสียในด้านการผลิตกุ้งแล้ว หากมีการตรวจพบสารเคมีต้องห้ามดังรายชื่อข้างต้นนี้ทางฟาร์มจะไม่สามารถยื่นขอการรับรอง GAP (Good Aquaculture Practice) จากกรมประมงได้ในระยะเวลาไม่น้อยกว่า 180 วัน และถูกขึ้นบัญชีเบิกถอนการรับรองรายชื่อ (บทกำหนดโทษ ตามระเบียบ GAP กรมประมง) นอกเหนือจากการหลีกเลี่ยงเรื่องของยาปฏิชีวนะต้องห้ามแล้ว ควรพิจารณาประเด็นอื่นๆ ประกอบการใช้ยาด้วยทุกครั้ง ดังนี้
- เลือกใช้ยาในกรณีที่จำเป็นจริงๆ และเลือกใช้ยาที่มีประสิทธิภาพ ควรมีการจัดการเรื่องพื้นบ่อและคุณภาพน้ำควบคู่ไปด้วย
- ควรเลือกใช้ยาทีละชนิดไม่ควรผสมยาหลายชนิดรวมกัน นอกจากยาที่มีผลในการเสริมฤทธิ์กัน
- ควรใช้ยาตามปริมาณที่กำหนดในฉลาก ไม่ควรใช้ปริมาณยาต่ำเกินกว่าที่กำหนดเพราะจะทำให้เกิดโอกาสในการดื้อยาได้
- ระยะเวลาในการใช้ยา ควรหยุดใช้ยาก่อนการจับกุ้ง 14 วันหรือเมื่อกุ้งอายุเกิน 2 เดือนครึ่ง เนื่องจากหากเกิดปัญหาในขณะเลี้ยงก็สามารถทำการจับขายได้ทันที โดยไม่เกิดปัญหาการตกค้างของยาตามมา
การใช้โปรไบโอติกเสริมในการเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับความสนใจและความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลาย โปรไบโอติกกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกจากธรรมชาติ ที่ช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในการเลี้ยงกุ้งแทนการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างรวดเร็ว เนื่องจากโปรไบโอติกช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ช่วยทำให้สัตว์น้ำย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ดียิ่งขึ้นจึงทำให้มีการเจริญเติบโตที่ดีตามมา
อีกทั้งโปรไบโอติกไม่มีข้อจำกัดการใช้เมื่อเทียบกับการใช้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากสามารถใช้ได้ในทุกช่วงวัยของสัตว์น้ำ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้เจ้าจุลินทรีย์ตัวเล็กๆ หรือโปรไบโอติก จึงเป็นแนวทางเลือกของการเลี้ยงสัตว์น้ำในปัจจุบันที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ ส่งเสริมการเลี้ยงอย่างยั่งยืนของเกษตรกรและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของอาหารและสุขภาพเป็นอย่างมาก
ด้วยนวัตกรรมด้านจุลินทรีย์ทางธรรมชาติซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่เราเชี่ยวชาญ มีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยที่ยั่งยืนของทุกชีวิต SAS ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จุลินทรีย์โปรไบโอติกพร้อมใช้ “Biotic Max Plus 2” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์โปรไบโอติกที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องจากกรมประมง ประกอบด้วยจุลินทรีย์กลุ่ม Bacillus spp. 3 สายพันธุ์ ซึ่งมีปริมาณมากถึง 1010 CFU/kg เพื่อช่วยในการส่งเสริมให้เกิดความแข็งแรงของร่างกายสัตว์น้ำและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน จึงเพิ่มอัตรารอดอย่างเห็นได้ชัด
[/col][/row] [row style=”small”][col span=”6″ span__sm=”12″][ux_image id=”9949″ image_size=”original” height=”75%”][/col] [col span=”6″ span__sm=”12″][ux_image id=”9950″ image_size=”original”][/col][/row] [row h_align=”center”][col span=”8″ span__sm=”12″]ภาพลำไส้กุ้งที่ใช้ผลิตภัณฑ์ Biotic Max Plus 2
โดยเฉพาะเมื่อใช้ตั้งแต่ในช่วงกุ้งเล็ก (ระยะ 1 เดือนแรก) เนื่องจากเป็นช่วงที่ระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ อีกทั้งช่วยกระตุ้นให้เกิดการยึดเกาะของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ของกุ้งจึงเพิ่มประสิทธิภาพในการในการย่อยและการดูดซึมสารอาหาร ส่งผลในด้านของการเจริญเติบโต และอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้เลี้ยงสามารถเห็นได้ชัดเจนคือ ลักษณะผนังลำไส้กุ้งที่ไม่เกิดการอักเสบในระหว่างการใช้ผลิตภัณฑ์ Biotic Max Plus 2 โดยสามารถตรวจสอบได้ภายใต้กล้องจุลทรรศน์
เกษตรกรผู้สนใจสามารถติดต่อเพื่อรับบริการตรวจสุขภาพกุ้ง ปรึกษาปัญหาในการเลี้ยงและสอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ที่ทีมงาน SAS
[/col][/row] [row style=”small” h_align=”center”][col span__sm=”12″ span__md=”12″ align=”center”]