▌Feed&Farm
แบคทีเรียก่อโรคในทางเดินอาหารสัตว์ปีก
[/text_box][/ux_banner] [row style=”collapse” width=”full-width” h_align=”center” padding=”20px 0px 0px 0px”][col span=”4″ span__sm=”8″ align=”left”]
author : SAS Team
[/col] [col span=”2″ span__sm=”4″ align=”center”][ux_text text_align=”left” text_align__sm=”left”]▌Feed&Farm
[/ux_text][/col] [col span=”2″ span__sm=”6″ align=”center”][ux_text text_align__sm=”left”]Date : 27 May 2021
“SAS หนึ่งในผู้นำที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากองค์ความรู้เทคโนโลยีชีวภาพสาขาจุลินทรีย์ พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีความมุ่งมั่นเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพถึงมือคุณด้วยใจรัก และสร้างประโยชน์คืนสู่สังคมไปพร้อมๆ กัน”
แบคทีเรียก่อโรคในทางเดินอาหารของสัตว์จะสร้างสารพิษหรือโปรตีนชนิดใดชนิดหนึ่งออกมา เพื่อทำลายหรือก่อให้เกิดการเสียหายของผนังลำไส้ กระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของตัวสัตว์เอง และบางครั้งทำให้เกิดอาการอักเสบภายในทางเดินอาหารของตัวสัตว์เอง
เชื้อก่อโรคในทางเดินอาหารที่มักพบในสัตว์ปีกและสุกร เช่น Salmonella spp., Escherichia coli, Clostridium perfringens, Clostridium difficile, Campylobacter spp., Yersinia spp., Shigella spp. (วิริยา, 2562)
สำหรับบทความในฉบับนี้ SAS จะกล่าวถึงเชื้อก่อโรคตัวสำคัญในอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่เนื้อ คือ E. coli
[ux_image id=”8025″]เชื้อ E. coli ยังคงเป็นปัญหาหลักๆ ของการเลี้ยงไก่เนื้ออยู่ในปัจจุบัน สายพันธุ์ของเชื้อที่ก่อโรคในไก่ที่พบได้บ่อย เช่น 01, 02 และ 078 แต่เชื้อที่พบได้จากไก่ที่เป็นโรคในประเทศไทยพบสายพันธุ์ 078 พบได้ในไก่เนื้อทุกช่วงอายุ
แหล่งที่พบเชื้อคือ ทางเดินอาหารในส่วนของลำไส้ E. coli เป็นแบคทีเรียแกรมลบ (gram negative bacteria) ในไก่เนื้อช่วงอายุ 4 – 5 สัปดาห์ มักจะเกิดความรุนแรงมากถ้าพบเชื้อ จะทำให้อัตราการตายสูงกว่าปกติ
[ux_image id=”8024″]ส่วนในเรื่องของการเจริญเติบโตจะส่งผลทำให้ต่ำกว่าเกณฑ์ ระบบการย่อยและการดูดซึมอาหารผิดปกติ อันเนื่องมาจากตัวเชื้อได้เข้าทำลายผนังลำไส้เล็กทำให้เสียหาย หลุดลอก และอักเสบ เชื้อ E.coli จะฝังตัวและเพิ่มจำนวนที่ลำไส้เล็กและเข้าสู่ระบบของร่างกายได้ง่ายขึ้นถ้าไก่ป่วยเป็นโรคบิด
ไก่สามารถได้รับเชื้อ E. coli โดยวิธีต่างๆ คือ
- การแพร่เชื้อผ่านไข่ พบได้บ่อย และเป็นสาเหตุทำให้ลูกไก่ตายได้สูงหลังจากฟักออกมา
- การที่เชื้อ E. coli จากมูลไก่เปื้อนมาสัมผัสเปลือกไข่ ซึ่งเชื้อสามารถแทรกตัวผ่านเปลือกไข่เข้าไปได้
- ไก่อาจได้รับเชื้อ E. coli ที่กระจายปะปนมากับฝุ่นละอองภายในโรงเรือน จากวัสดุรองพื้น จากสิ่งขับถ่ายของไก่ตัวอื่น หรือจากน้ำที่ไก่กินไม่สะอาด
สมาคมธุรกิจเวชภัณฑ์สัตว์กล่าวว่า โรคที่ไก่ได้รับเชื้อ E. coli มักจะเกิดเป็นโรคโคไลบาซิลโลซิส (Colibacillosis) แต่ส่วนมากมักเกิดภายหลังจากไก่ เกิดเครียด ภูมิคุ้มกันตก ซึ่งสาเหตุที่เกิดความเครียดและเกิดโรคอาจเกิดมากจาก
- 1. ไก่มีเชื้อ MG และได้รับวัคซีนนิวคาสเซิล วัคซีนหลอดลมอักเสบติดต่อ หรือวัคซีนกล่องเสียงอักเสบติดต่อ (Infectious Laryngotracheitis vaccine) เป็นต้น
- 2. สภาพภูมิคุ้มกันบกพร่องจากโรคกัมโบโร (Gumboro หรือ Infectious Bursal Diseases) หรือสารพิษจากเชื้อรา เป็นต้น
- 3. สภาพสิ่งแวดล้อม อากาศแปรปรวน อุณหภูมิแตกต่างกันมากระหว่างกลางคืน ล้างโรงเรือนไม่สะอาด การฟักไม่ดี แอมโมเนียสูง ความชื้นสูง การระบายอากาศมากหรือน้อยเกินไป เป็นต้น
ด้วยผลกระทบทั้งหมดที่เกิดจากตัวเชื้อ E. coli ร่วมกับไก่มีความเครียดและภูมิคุ้มกันตกด้วย การแก้ปัญหานี้ก็ต้องทำทั้ง 2 ทางคือ กำจัดเชื้อ E. coli ออกจากระบบการเลี้ยง และการเลี้ยงให้ไก่เกิดความเครียดน้อยที่สุด ไม่เลี้ยงหนาแน่นจนเกินไป ไก่ได้รับน้ำและอาหารเต็มที่
เสริมแร่ธาตุ วิตามินในวันที่อากาศร้อนเพื่อลดความเครียด และส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรงด้วยการเสริมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ (Probiotic) เพื่อรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในร่างกายไก่ ในสมดุลจุลินทรีย์ที่ดีจะเข้าไปจัดการเชื้อก่อโรค และที่สำคัญการเลี้ยงไก่ยุคใหม่ต้องหลีกเลี่ยงและลดการใช้ยาปฏิชีวนะให้มากที่สุด
เมื่อเราจัดการทุกอย่างอย่างเหมาะสมและถูกต้องแล้ว ผลที่ตามมาก็คือ ไก่สุขภาพที่แข็งแรง ไม่เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ และประสิทธิภาพการเจริญเติบโตเป็นไปตามมาตรฐาน ผลกำไรจากการประกอบธุรกิจก็ดีตามมาด้วย
[ux_image id=”8022″][ux_text text_align=”center”]